![]() |
?Best Practices? กับ การจัดการความรู้ ตอนที่ 7 ?Systematic Knowledge Management?
|
![]() |
ปัญหาอีกประการหนึ่งขององค์กรจำนวนไม่น้อยที่เริ่มจัดการความรู้ (KM) ภายในองค์กรแล้วไม่ประสพความสำเร็จ ผู้บริหารไม่ปลื้มกับ KM ถึงแม้ว่าจะทำเป็นเวลานานแล้วแต่ยังไม่คืบหน้าไปถึงไหนก็เพราะว่า องค์กรยังมีความเข้าที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการจัดการความรู้ในองค์กร หรือ เข้าใจ KM แบบผิด ๆ นั่นเอง
จริงๆ แล้ว การจัดการความรู้ในองค์กรจะมีอยู่ด้วยกัน 2 มิติ คือ
1.Organization KM (การจัดการความรู้ และการเรียนรู้ ในระดับองค์กร)
2.Personal KM (การจัดการความรู้ และการเรียนรู้ ในระดับบุคคล)ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของ KM ของข้อที่ 1 คือ องค์กรบรรลุเป้าหมาย และพันธกิจขององค์กร และเป้าหมายสูงสุดของ KM ข้อที่ 2 คือคนในองค์กรเก่งขึ้นกว่าเดิม คิดเชิงระบบดีขึ้นกว่าเดิม ย่อมส่งผลให้ข้อที่ 1 บรรลุตามเป้าหมายตามไปด้วย
ส่วนใหญ่ที่ยังไม่เข้าใจกันคือไปหยิบใช้เครื่องมือเล็ก ๆ ของ KM ที่ใช้ในกระบวนการ Personal KM มาใช้ในระดับ Organization KM โดยแยกกันไม่ออกระหว่าง KM สองประเภทซึ่งมีการจัดการที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่น พอเริ่มทำ KM ในองค์กรก็จัดลงทะเบียนให้เกิด CoP แล้วแล้วบอกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้… แสดงว่าทำ KM และมี KM แล้ว ขอบอกว่าไม่ใช่สิ่งผิด แต่มันไม่ถูก เพราะเรากำลังทำ KM แบบไม่เป็น Systematic คือคล้ายๆ กับตาบอดคลำช้างนั่นเอง แบบมั่ว ๆ
คำว่า KM ที่เป็น Systematic “มีความเป็นระบบ” หมายถึง แนวทาง KM ซึ่งมีการจัดขั้นตอนไว้เป็นลำดับ สามารถทำซ้ำได้ และมีการใช้ข้อมูลและสารสนเทศเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ หรืออาจกล่าวได้ว่า KM ที่มีความเป็นระบบ หากมีการประเมิน มีการปรับปรุง และการแบ่งปันรวมอยู่ด้วย จนส่งผลให้แนวทาง KM นั้นมีระดับความสมบูรณ์
ดังนั้นการเริ่มต้นของ KM ในองค์กรจะต้องไม่ลืมมองย้อนกลับไปข้างบน มองไปที่วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัด คำรับรอง ระดับองค์กร ก่อนว่าความรู้อะไรที่จะทำให้ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ ขององค์กรประสพความสำเร็จ เมื่อเราหาความรู้พวกนี้ได้แล้วจึงต้องไปหา Source of Knowledge โดยหาจาก 3 ที่คือ Best Practice, Lesion Learn และ Expertise ใน / นอก องค์กรว่ามีหรือไม่ ถ้ามีถึงจะเอาเครื่องมือ (KM Tools) ไปจัดการความรู้เหล่านั้น ไม่ใช่ โผล่มาจัด CoP จัด แลกเปลี่ยนเรียนรู้ มันเลอะเทอะ มันไม่ตรงเป้า ตรงประเด็น มันไม่มียุทธศาสตร์ ไม่ตอบโจทย์ผู้บริหาร องค์กรหรอก จัดไปได้สองครั้งสามครั้งคนก็เบื่อไม่มีใครอยากจะมา CoP ด้วย มันถึงล้มเหลวไง
ในโลกนี้มีเครื่องมือสำหรับ KM อยู่ไม่น้อยกว่า 30 ชนิด การที่เราจะหยิบเครื่องมืออันไหนมาใช้จึงต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับ ความรู้และแหล่งของความรู้แต่ละประเภท และที่สำคัญเราจะต้องมีแผนกลยุทธ์ KM ระดับองค์กรใช้ชัด มีการวัดระยะความสำเร็จของการจัดการความรู้เป็นระยะ ๆ หรือที่เราเรียนว่า KM Milestone (เดี๋ยววันหลังจะอธิบายการวาง KM Milestone ให้ฟัง)
อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า KM เป็นเครื่องมือพัฒนาองค์กรประเภทเดียวที่แยกทำเดี่ยว ๆ ไม่ได้มันจะต้องบูรณาการกับระบบคุณภาพต่างๆ ในองค์กร เพราะในระบบคุณภาพต่างๆ ในองค์กรนั้นมันมี Best Practice, Lesion Learn และ Expertise อยู่ในนั้นเราต้องไปจัดการความรู้ในนั้นมันถึงเนียน ๆ ไปในงานไม่แปลกแยกออกมานอกงานประจำตัวอย่างเช่น…
ถ้างานโรงพยาบาล KM จะต้องไปอยู่ในระบบ CQI, QM, HA หรือ ระบบอื่นใดในนั้นถ้างานโรงงาน KM จะต้องไปเกี่ยวอยู่กับระบบ TPM, QM, 5S, QCC, Kaizen…….ถ้าเป็นงานบริการ KM จะต้องไปเกี่ยวอยู่ QSM (Quality Service Management)
นั่นเป็น KM ในระดับองค์กร (Organization KM) ส่วน KM ระดับบุคคล จะต้องไปผูกกับระบบ HRD — > IDP ขององค์กร แล้วบูรณาการย้อนกลับไปหา KM ในระดับองค์กร สะท้อนกลับไปที่ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัด คำรับรอง ระดับองค์กร นี่แหละมันถึงจะตอบผู้บริหารได้ว่าทำ KM แล้วองค์กรได้อะไร ???
“ยุทธศาสตร์” คือ การมองทิศทางและวิเคราะห์ไปสู่อนาคต โดยพิจารณาถึงทรัพยากร ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทางเลือกต่าง ๆ ความเป็นไปได้ขององค์การเพื่อระดมมาใช้ และพิจารณาว่าสามารถนำองค์การไปสู่ภารกิจและเป้าหมายที่วางไว้
“กลยุทธ์” คือ เครื่องมือที่กำหนดทิศทางการทำงานของหน่วยงานเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการให้บริการ
สรุป : ยุทธศาสตร์ หมายถึง ทิศทางที่ชัดเจนขององค์กรกำหนดขึ้นเพื่อชี้นำการปฏิบัติในอนาคตส่วน กลยุทธ์ หมายถึงเครื่องมือที่จะทำให้ ยุทธศาสตร์ นั้นประสพความสำเร็จ
การจัดการความรู้อย่างเป็นระบบ (Systematic Knowledge Management) ขององค์กร ก็เช่นเดียวกันจะต้องคิดเชิงระบบ มีแผนที่การเดินทาง (ยุทธศาสตร์) มีเนื้อหาความรู้ที่ชัดเจน มีเครื่องมือที่หลากหลาย (กลยุทธ์) มีเป้าหมายระหว่างทาง (Milestone) ไม่ใช่การจ๊ะ ๆ จ๋าๆ (Socialization) ไปเรื่อย จัด CoP กันอย่างเดียว แผนยุทธศาสตร์ KM จะต้องชัดว่าจะทำอะไรในแต่ละปีหรือที่เราเรียกกันว่า “Knowledge Theme” ต้องชัดแบบนี้แหละมันจะทำให้ KM เราตอบโจทย์องค์กรได้เป็นอย่างดี
Page: 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 [Next] [Last]
- Learning Points หัวข้อ Business Industry 4.0 หลักสูตร Abridged Business Concept
- Learning Point : Knowledge Management for Productivity การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 2 ภาคใต้ นครศรีธรรมราช
- Learning Points สัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจฝึกปฏิบัติและจัดทำแผนพัฒนาบุคลากร
- Learning Points หัวข้อ "Decision Making and Problem Solving" การตัดสินใจและการแก้ไขปัญหา (รูปแบบ Activity Base Learning)
- Learning Points : การถอดบทเรียนวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศจากโครงการนวัตกรรม
- Leaning Points : การจัดทำระบบ สมรรถนะบ่งชี้ (Competency Dic) และการนำไปใช้ (Implementation)
- Learning Points : "การวัด การวิเคราะห์ กาาจัดการความรู้ การทบทวนผลการดำเนินการเพื่อสร้างบทเรียน และวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ข้ามสายงาน ข้ามกระบวนการปฏิบัติงาน SEPA 4.2 ก (3)" เข้มข้น แต่ไม่เคร่งเครียด
- Learning Point : ประชุมเชิงปฏิบัติการเริ่ม (Kick off) โครงการพัฒนาระบบการจัดการความรู้ (Knowledge Management System)
- Learning Points : การใช้ข้อมูล และสารสนเทศ เพื่อบริหารจัดการ : หลักสูตรนักบริหารแรงงานระดับสูง กระทรวงแรงงาน
- Learning Points : KM Camp Advance
- Learning Points : KM Camp : บจ.วิทยุการบินแห่งประเทศไทย
- Learning Points : KM Camp การประปานครหลวง
- Learning Points :หลักสูตรการค้นหาหัวข้อความรู้ (Knowledge Audit) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่
- Learning Points : หัวข้อ "การปลูกฝังการจัดการความรู้กับการปฏิบัติงาน" (สำหรับผู้บริหาร)
- Learning Points : การถอดบทเรียนวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศจากโครงการนวัตกรรม
- Learning Points : หลักสูตร State Enterprise Performance Appraisal: SEPA) Awareness
- Learning Points "กลยุทธ์การบริหารทรัพยากรมนุษย์เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซี่ยน"
- Learning Points : KM Kick off การจัดการความรู้
- Learning Points "คลีนิค KM"
- Learning Points : หลักสูตรยกระดับ 5ส.เพื่อการเพิ่มผลผลิต- ธรรมสรณ์กรุ๊ป
![]() |