3.วีธีที่ดูง่ายในทางปฏิบัติและกลมกลื่นกับการทำงานขององค์กรอยู่แล้วคือการเอา กระบวนการ (Process) เป็นตัวตั้งเพื่อกำหนดหัวข้อความรู้ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน

กระบวนการ (Process) คืออะไร ? คือกิจกรรมที่เชื่อมโยงกันโดยมีวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตการบริการทั้งภายในและภายนอกองค์กร

ความรู้ (Knowledge) คือสิ่งที่สั่งสมมาจากการศึกษาเล่าเรียนการค้นคว้าหรือประสบการณ์ รวมทั้งความสามารถเชิงปฏิบัติและทักษะ ความเข้าใจ หรือ สารสนเทศ ที่ได้รับมา สิ่งที่ได้รับมาจากการได้ยินได้ฟัง การคิดหรือการปฏิบัติ องค์วิชาในแต่ละสาขา ในที่นี้จึงหมายถึง ความรู้อะไรที่จะไปสนับสนุนเพื่อให้กระบวนการ (Process) นั้นดำเนินไปจนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด

ดังนั้นการค้นหาหัวข้อความรู้จะต้องสัมพันธ์กับกระบวนการปฏิบัติงานขององค์กร ความรู้นั้นจึงจะมีคนนำไปใช้

4.อะไรบ้างที่เป็นความรู้ในกระบวนการตัวอย่างเช่น
- คู่มือการปฏิบัติงาน (Work Manual) ใน SEPA หมวด 6
- ระเบียบ คำสั่ง แนวทางปฏิบัติขององค์กร แบบฟอร์ม
- Flow, Procedure 
- Case Study, Good Practice, Best Practice
- One Point Lesson, Body of Knowledge 
- Lesson Learned จากความเสี่ยง ปัญหาที่ไม่คาดฝัน 6.1
- นวัตกรรม ที่เกิดจากการปรับปรุงกระบวนการตามหมวด 6.2
- สารสนเทศจากจากลูกค้าตามหมวด 3.1 Voice of Customer 
- ฯลฯ

5.จะเห็นได้ว่าความรู้ (Knowledge) ในข้อ 4.จะเทรกอยู่ในทุกกระบวนการขององค์กรถ้าเราจัดการมันถูกจุด จัดการแบบเป็นระบบ โดยใช้เครื่องมือการจัดการความรู้ได้ถูกวิธี ตัวอย่างเครื่องมือในการค้นหาหัวข้อความรู้ เช่น K-Map K-Landscape การจัดการความรู้จะเป็นเรื่องที่น่าสนุก ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป